วิธีดูแลน้องชายให้แข็งแรง
หากพูดถึงหนึ่งในอวัยวะที่สำคัญที่สุด ท่านชายทั้งหลายคงจะต้องนึกถึงเจ้าโลกของตัวเองอย่างแน่นอน เพราะนอกจากจะเอาไว้ใช้ในการปัสสาวะแล้ว ก็ยังต้องเอาไว้ใช้ทำกิจกรรมทางเพศอย่างการมีเซ็กส์หรือช่วยตัวเอง รวมทั้งการสืบพันธุ์ และยังเป็นอวัยวะที่แสดงถึงความเป็นชายอีกด้วย เพราะฉะนั้นหนุ่ม ๆ ก็ควรดูแลสุขภาพน้องชายของตัวเองให้ดี เพื่อที่จะได้มีน้องชายที่แข็งแรงพร้อมออกรบในทุกสถานการณ์ และวันนี้เราจะมาแนะนำกันว่าต้องดูแลอย่างไรบ้าง
เลิกสูบบุหรี่
การสูบบุหรี่นั้นนอกจากจะทำให้สุขภาพร่างกายแย่ลงแล้ว ก็ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพของน้องชายด้วยเช่นกัน โดยผู้ที่สูบบุหรี่มักจะมีปัญหาเรื่องสมรรถภาพทางเพศมากกว่าคนที่ไม่ได้สูบ เช่น น้องชายแข็งตัวยาก หรือแข็งตัวได้ไม่เต็มที่
นอนหลับให้เพียงพอ
การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอนั้นก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพได้มากมาย ทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย รวมทั้งส่งผลต่ออัตราการผลิตฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน (ฮอร์โมนเพศชาย) ซึ่งทำให้เกิดปัญหาการแข็งตัวของน้องชายได้ เพราะฉะนั้นจึงควรนอนหลับให้ได้อย่างน้อยวันละ 5 ชั่วโมงขึ้นไป เพื่อให้มีสุขภาพน้องชายและร่างกายที่แข็งแรง
อย่าปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำ
ในทุก ๆ วันเราควรจะดื่มน้ำอย่างน้อย 8 แก้ว เพราะถ้าหากร่างกายขาดน้ำก็จะทำให้การหมุนเวียนของเลือดไปหล่อเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้แย่ลง ซึ่งรวมถึงอวัยเพศด้วย เมื่อมีเลือดไปหล่อเลี้ยงน้องชายไม่พอก็ทำให้มีปัญหาในการแข็งตัวนั่นเอง แถมนี่ยังไม่รวมปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ที่เกิดจากร่างกายขาดน้ำอีกนะ
ใช้งานน้องชายบ้าง
อะไรที่ไม่ค่อยได้ใช้งานเลย ก็อาจจะเสื่อมสภาพเร็วขึ้นได้เป็นธรรมดา น้องชายก็เช่นกัน โดยจากผลสำรวจพบว่าการที่ผู้ชายมีเซ็กส์อย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง จะช่วยให้อวัยวะเพศมีการแข็งตัวที่ดีขึ้นและดีกว่าคนที่ไม่ค่อยได้มีเซ็กส์เลย ส่วนใครที่ไม่มีคู่นอนก็อาจจะใช้การช่วยตัวเองแทนไปก่อนก็ได้ รวมทั้งใช้บริหารน้องชายแบบอื่น ๆ
หมั่นทำความสะอาดน้องชาย
น้องชายที่ขาดการดูแลความสะอาด อาจทำให้เกิดกลิ่นเหม็นรวมทั้งอาการคันต่าง ๆ เพราะฉะนั้นหนุ่ม ๆ จึงควรทำหมั่นทำความสะอาดน้องชายเป็นประจำ อย่าปล่อยให้มีขี้เปียก เชื้อราและแบคทีเรีย จนส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์และปัญหาอื่น ๆ ตามมา
มีเซ็กส์อย่างปลอดภัย
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์นั้นมีอยู่มากมายหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นเชื้อเอชไอวี เอชพีวี หนองใน ซิฟิลิส หูดหงอนไก่ และอื่น ๆ ซึ่งสามารถป้องกันและลดความเสี่ยงได้ด้วยการไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย รวมทั้งใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
พบแพทย์เมื่อพบความผิดปกติ
หากพบความผิวปกติบริเวณอวัยวะเพศ เช่น อาการเจ็บปวดองคชาติหรือลูกอัณฑะ มีเลือดในปัสสาวะ ปัสสาวะแสบขัดหรือปัสสาวะไม่ออก รวมทั้งอาการผิดปกติอื่น ๆ ควรพบแพทย์เพื่อทำการตรวจและรักษา เพราะถ้าปล่อยไว้อาจมีอาการรุนแรงมากขึ้น หรืออาจเป็นมะเร็งได้
แหล่งที่มา : men.kapook.com